• Welcome to ลงประกาศฟรี โปรโมทเว็บ SEO SMF PBN.
 


มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรง นับว่าเป็นต้นกำลังที่สำคัญมากอย่างหนึ่งของโรงงานอุตสาหกรรมในปัจจุบัน &&

Started by www.SeoNo1.co.th, Sep 15, 2025, 08:18 PM

Previous topic - Next topic

www.SeoNo1.co.th

มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรงนับว่าเป็นต้นกำลังที่สำคัญมากอย่างหนึ่งของโรงงานอุตสาหกรรมในขณะนี้



จุดแข็งสำคัญๆของมอเตอร์ชนิดนี้คือสามารถปรับความเร็วได้ตั้งแต่ระดับต่ำสุดไปจนถึงสูงสุดโดยมักใช้กับระบบอุตสาหกรรม ตัวอย่างเช่น โรงงานทอผ้า, โรงงานถลุงโลหะ, โรงงานเส้นใยโพลีเอสเตอร์ ทั้งนี้ก่อนที่จะไปทำการใช้งานมอเตอร์กระแสไฟฟ้าชนิดนี้ เราจะต้องรู้จักกับอุปกรณ์ต่างๆรวมถึงหลักการทำงานให้ถูกหลักด้วยเพื่อจะได้เลือกใช้งานได้อย่างถูกต้อง

องค์ประกอบของ มอเตอร์กระแสไฟฟ้า กระแสไฟตรง

1. เฟรมหรือโยค (Frame or Yoke) : เป็นโครงข้างนอกเปรียบได้กับ มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรง ทางเดินของแม่เหล็กจากขั้วเหนือไปขั้วใต้ ช่วยยึดองค์ประกอบอื่นๆให้แข็งแรง

2. ขั้วแม่เหล็ก : จะมี 2 ส่วน เป็นแกนขั้วแม่เหล็กกับขดลวดสนามไฟฟ้า

3. ตัวหมุน (Rotor) : จะทำให้เกิดกำลัง ลักษณะมีแกนวางอยู่ตรงกระสุนปืน ประกอบไปด้วย 4 ส่วนสำคัญๆคือ แกนเพลา, แกนเหล็กอเมเจอร์, คอมมิวเตเตอร์ และก็ขดลวดอเมเจอร์

4. แปรงถ่าน : ทำจากคาร์บอนทรงสี่เหลียมผืนผ้า จำต้องสัมผัสกับซีคอมมิวเตเตอร์ตลอดเวลาเพื่อรับไฟฟ้าพร้อมส่งระหว่างขดลวดอเมเจอร์กับวงจรไฟฟ้าด้านนอก

ลักษณะการทำงานเบื้องต้นของ มอเตอร์ไฟฟ้า กระแสไฟตรง

พอแรงดันกระแสไฟฟ้าเข้าไปยังมอเตอร์ ส่วนใดส่วนหนึ่งจะเข้าแปรงถ่านผ่านคอมไม่วเตเตอร์ต่อเข้าไปยังขดลวดอเมเจอร์เพื่อสร้างสนามไฟฟ้าขึ้นมา ในเวลาที่กระแสไฟฟ้าอีกส่วนจะไหลไปยังขดลวดสนามไฟฟ้า  มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรง เกิดเป็นขั้วเหนือ-ขั้วใต้ นำมาซึ่งสนามแม่เหล็ก 2 สนาม โดยคุณลักษณะของแม่เหล็กแนวทางตรงข้ามจะลบล้างกัน ส่วนทิศทางเดียวกันเสริมแรงกันกำเนิดเป็นแรงบิดในตัวอเมเจอร์หมุนได้เรียกว่าตัวหมุนหรือ Rotor ด้วยแม่เหล็กทั้งสองที่เกิดปฏิกิริยาต่อกัน ทำให้การหมุนดังกล่าวข้างต้นเกิดขึ้น เพื่อทำให้มอเตอร์ไฟฟ้า ไฟฟ้ากระแสตรง สามารถใช้งานได้นั่นเอง

มอเตอร์ไฟฟ้า ไฟฟ้ากระแสสลับ 3 เฟส

เป็นมอเตอร์ที่ได้รับความนิยมมากมายในกลุ่มโรงงานอุตสาหกรรม ใช้กับระบบไฟกระแสสลับ การใช้งานพื้นฐานคือเปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าให้กลายเป็นพลังงานกล ส่วนที่ปฏิบัติหน้าที่เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเป็นขดลวดในสเตเตอร์ เมื่อได้รับพลังงานไฟฟ้าก็จะสร้างสนามแม่เหล็กขึ้น และจะไปส่งผลให้เกิดการเหนี่ยวนำของกระแสไฟฟ้าขึ้นในขดลวดของโรเตอร์ หรือ เรียกว่าตัวหมุน ซึ่งคือส่วนที่ทำหน้าที่ให้พลังงานกลนั่นเอง ก็เลยทำให้มีการเรียกมอเตอร์ไฟกระแสสลับว่ามอเตอร์รั้งนำ

สามารถแบ่งออกได้เป็น 2 ชนิดเป็น

1. มอเตอร์กระแสไฟฟ้า กระแสสลับแบบอินดักชั่น หรือ รั้งนำ– จะมีความเร็วพร้อมรอบคงที่ เนื่องด้วยขึ้นกับความถี่ของบ่อเกิดไฟฟ้า โครงสร้างไม่ค่อยสลับซับซ้อน ราคาไม่แพง รักษาง่ายเพราะว่าไม่มีคอมมิวเตเตอร์กับแปรงถ่านเหมือนมอเตอร์กระแสไฟตรง เมื่อใช้ร่วมกับเครื่องควบคุมความเร็วอินเวอร์เตอร์ก็จะสามารถคุมความเร็วได้ตั้งแต่0 ถึง ความเร็วสูงสุดของมอเตอร์
ข้างในประกอบไปด้วยโรเตอร์, ขดลวดสนามไฟฟ้า, มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรง โครงมอเตอร์, ขั้วต่อสาย, ฝาครอบหัว, ฝาครอบท้าย สามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภทสำคัญๆอาทิเช่น อินดิกชั่นมอเตอร์แบบทรงกระรอกกับอินดิกชั่นมอเตอร์แบบขดลวด การใช้งานขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของเครื่องจักร

2. มอเตอร์ไฟฟ้า กระแสสลับแบบสิงวัวรนัส– จะเป็นมอเตอร์ขนาดใหญ่ขนาดกะแสไฟฟ้าตั้งแต่ 150 KW ไปจนกระทั่ง 15 MW ระดับความเร็วตั้งแต่ 150 – 1,800 RPM มีส่วนประกอบสำคัญ 2 ส่วนเป็น

- สเตเตอร์ (Stator) จะเป็นอย่างกับแบบอินดักชั่น มีร่องพันขดลวด 3 ชุด เฟสละ 1 ชุด พอจ่ายกระแสสลับ 3 เฟสให้สเตเตอร์จะเกิดสนามไฟฟ้าหมุนขึ้นมา
- โรเตอร์ (Rotor) ลักษณะเป็นขั้วแม่เหล็กยื่น ขดลวดพันด้านข้างขั้วแม่เหล็กที่ยื่นออกมาโดยจะพันยื่นต่อกับแหล่งจ่ายกระแสไฟฟ้ากระแสไฟตรงด้านนอกไม่ก็สร้างขั้วแม่เหล็กตรงโรเจอร์ เมื่อมีการจ่ายกระแสไฟฟ้ามายังสเตเตอร์จะเกิดเป็นสนามไฟฟ้าหมุนความเร็วพอๆกับความเร็วของสนามแม่เหล็ก มอเตอร์ไฟฟ้ากระแสตรง ตรงสเตเตอร์นั่นเอง

สนใจอ่านรายละเอียดได้ตามนี้ >> https://fms.co.th/ชวนทำความรู้จักกับมอเต/